ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สูตรอาหาร : เอแคลร์ (Eklare)

เอแคลร์ (Eklare)



ส่วนผสมของไส้เอแคลร์ (Eklare)

- แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 4 ฟอง
- เนยสดจืด 5 ช้อนโต๊ะ
- นมผง 1/3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- นมข้นจืด 3/4 ถ้วย
- น้ำ 1 1/2 ถ้วย
- Pure vanilla extract 1/2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา


วิธีทำไส้ของเอแคลร์ (Eklare)

เริ่มต้นด้วยการนำไข่แดงมาตีกับน้ำตาลทรายและเกลือจนน้ำตาลทรายละลายหมด จากนั้นร่อนแป้งกับนมผงลงไปในไข่แดง (อย่าให้แป้งเป็นเม็ด) ค่อยๆใส่นมข้นจืดที่ผสมน้ำไว้ลงไปทีละนิด ผสมจนส่วนผสมเนียน แล้วก็กรองสัก 2 รอบ ส่วนผสมจะได้เนียน แล้วก็นำไปตั้งไฟกวนจนกระทั่งไส้สุกข้น ให้กวนไปเรื่อยๆ ส่วนผสมจะได้ไม่เป็นก้อน พอส่วนผสมเริ่มข้นดีก็ใส่เนยลงไปกวนให้เข้ากัน แล้วก็ใส่วนิลาเป็นขั้นสุดท้าย จากนั้นนำพลาสติกมาคลุมหน้าไว้สักหน่อย กันลมเข้า หน้าจะได้ไม่แข็ง และตั้งทิ้งไว้ให้เย็นก่อนบีบ เข้าไปในเปลือกขนม (เพราะไบีบตอนร้อนจะทำให้ขนมเสียเร็วขึ้น)

วิธีทำเปลือกขนมเอแคลร์ (Eklare)

ตั้งอุ่นเตาอบรอไว้ก่อนที่อุณหภูม 200 องศา ใช้ไฟบนล่างและพัดลม วางถาดไว้ตรงกลางของเตาอบ

ส่วนผสมของแป้งเปลือกเอแคลร์ (Eklare)

- แป้งหัวแดง 3/4 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ใหญ่ 2 ฟอง
- เนยสดเค็ม 1/4 ถ้วย

วิธีทำเอแคลร์ (Eklare)

นำน้ำและเนยมาละลายด้วยความร้อน แล้วก็นำแป้งที่ร่อนไว้ใส่ลงไปทั้งหมดเลย คนเร็วๆให้ส่วนผสมเข้ากัน (ใช้ตะกร้อมือหรือพายยางที่ทนความร้อน) เสร็จแล้วนำใส่ไมโครเวฟต่อด้วยระบบ high ไม่ปิดภาชนะเป็นเวลา 2 นาที ครบ 1 นาทีก็นำออกมาคน 1 ครั้งใส่ไข่ต่ออีกใบ คนจนส่วนผสมเข้าที สูตรนี้แป้งจะไม่เหลว หรือใช้เครื่องตีไข่ก็ได้ จะได้ส่วนผสมที่เนียนขึ้น เสร็จแล้วนำส่วนผสมใส่ถุงพลาสติก ตัดปลายเตรียมหยอด

ให้หยอดลงในถาดที่ปูกระดาษ Pachment ไว้แต่ถ้าไม่มีให้ใช้เนยจืดทาก้นถาดแล้วก็หยอดได้ ปกติแล้วตรงปลายขนามที่หยอดจะมีลักษณะแหลมๆเป็นยอดขึ้นมา เราจะต้องใช่ส่อมจุ่มน้ำมาแปะหน้ามันสักหน่อยไม่งั้นหน้ามันจะไหม้ ลองหยอดสักประมาณ 32 ลูกก็ได้

นำเข้าเตาอบ อกประมาณ 20 นาที 10 นาทีแรกอบด้วยไฟ 200 องศา หลังจากนั้นให้ลงไฟเหลือ 175 องศาไม่งั้นหน้าจะไหม้เสียก่อน ประมาณ 20 นาทีเปลือกขนมจะพองได้ที่ ให้นำออกจากเตาอบ พอตัวเปลือกเย็นไส้ขนมเย็น ก็เตรียมสอดไส้ ให้ใช้กรรไกรตัดตรงรอยแตกของขนม แล้วนำไส้ใส่ถุงพลาสติกที่ตัดปลายแล้ว หยอดไส้ใส่เข้าไปจนเต็ม ถ้าเป็นลูกเล็กๆต้องใส่หัวบีบเสียก่อน ใช้หัวบีบแทงเข้าไปในเปลือกขนมเลยก็ได้ไม่ต้องใช้กรรไกรตัดก่อน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตรอาหาร : วิธีทอดไข่ดาวแบบไม่สุก

หลายๆคนคงเคยเห็นว่า บางครั้งที่เราสั้งอาหารที่มีไข่ดาวติดมาด้วยนั้น บางทีไข่ดาวก็จะสุกจนแห้ง หรือนไม่ก็ ไม่ค่อยจะสุก หรือไม่ก็สไตล์การรับประทานไข่ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนชอบไข่ดาวแบบกรอบๆแห้งๆ หรือบางคนก็ชอบแบบ ไข่แดงน้ำเยิ้มๆ ซึ่งมันจะมีกลิ่นคาวของไข่ติดมาด้วย บางคนอาจชอบแต่บางคนอาจจะไม่ชอบ มาดูวิธีการทอดไข่ให้ไม่สุกกัน ขั้นตอนที่ทอดไข่แบบไม่สุก 1.ตั้งกระทะไฟแรง 2.ใส่น้ำมันพอประมาณที่จะท่วมไข่ได้ 3.ตอกไข่ใส่ลงไปโดนเร็ว (ขั้นตอนนี้น้ำมันอาจจะดีดใส่ได้ควรระวัง) 4.ใช้ตะหลิวกวักน้ำมันราด 2 - 3 ที 5.ดูว่าไข่ขาวสุกพอทานได้เหมือนไหร่ให้ดับเตาพร้อมช้อนไข่ไปพักไว้ข้างกระทะเพื่อระสะเด็ดน้ำมัน 6.เมื่อสะเด็ดน้ำมันก็นำไปรับประทานได้ทันที เห็นไหมครับว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดเลย แต่ที่สำคัญควรระวังน้ำมันจะกระเด็นใส่ด้วยนะครับ

สูตรอาหาร : แกงปลาสวาย

ส่วนผสมของแกงปลาสวาย - ปลาสวาย - เครื่องแกง - ใบโหระพา - น้ำกะทิทั้งหัวและหาง - หน่อไม่ - น้ำตาล - น้ำปลา วิธีทำแกงปลาสวาย 1.ตั้งหม้อใส่น้ำมันเล็กน้อย ให้พอน้ำมันเดือด 2.ใส่เครื่องแกงลงไปผัดในหม้อจนออกกลิ่นหอม 3.ใส่ปลาสวายที่เราเตรียมไว้ลงไปพัดพอสุก 4.เมื่อเื้นื้อปลาเริ่มสุกให้ใส่หัวกระทิลงไปพอท่วมเนื้อปลาสวาย 5.รอจนน้ำกะทิเดือดให้ใส่หน่อไม้ลงไป รอจนหน่อไม้เริ่มสุก 6.ใส่หางกะทิลงตามไป ตั้งไฟไว้พอกะทิเริ่มแตกมัน ปิดเตา แล้วโรยใบโหระพาโรยหน้า 7.รอจนใบโหรพาเหี่ยวจึงพร้อมยกเสิร์ฟ

สูตรอาหาร : วิธีดับกลิ่นไหม้

เวลาคุณทำอาหารอยู่ในครัว คุณอาจหลงลืมปล่อยให้อาหารตั้งไฟจนเหม็นไหม้ทั่วบ้าน คุณตไม่ต้องตกใจเพราะกลิ่นเหม็นไหม้นั้นสามารถขจัดออกได้ เพียงแค่นำถ้วยใส่น้ำเย็นพอประมาณไปตั้งในหน้าที่ไหม้ของคุณ กลิ่นอาหารก็จะดีขึ้นและหายเหม็นไหม้ในที่สุด